วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

‘ศรีไทย’รุกเปิด‘เอสเนเจอร์’ชลบุรี ‘สนั่น’ตั้งเป้ายอดสิ้นปีโต1,000ล้าน


“ศรีไทย” เดินเครื่องรุกหนัก ผุดศูนย์รูปแบบวันสต๊อปเซอร์วิส “ศรีไทย-เอสเนเจอร์” สาขาชลบุรี พร้อมปรับศูนย์โฉม ใหม่ทั่วประเทศให้ทันสมัย แย้มอีก 2 ปีข้างหน้าเพิ่มศูนย์อีกเท่าตัว “สนั่น” ฟุ้งคุณภาพสินค้ายอดเยี่ยม ล่าสุดต่างประเทศทาบทามไปขาย ลั่น! อีก5 ปีคนไทยได้เป็นอัพไลน์ทั่วโลก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดสาขาชลบุรีในครั้งนี้ถือเป็นการสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจ นั่นคือ บริษัท ศรีไทยฯ ยังคงลงทุนอย่างสม่ำเสมอในการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าทั้ง 2 ธุรกิจ คือซุปเปอร์แวร์ไดเร็กท์เซลส์และธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์ โดยมีจุดมุ่งหมายให้ทุกสาขาเป็นวันสต๊อปเซอร์วิสอย่างแท้จริง ซึ่งบริษัทเดียวในประเทศไทยที่สมาชิกสามารถทำธุรกิจได้ 2 ธุรกิจพร้อมๆกันคือ ธุรกิจ ซุปเปอร์แวร์ไดเร็กท์เซลส์ อันเป็นการขายตรงแบบชั้นเดียวสำหรับผลิตภัณฑ์เมลามีนที่ยืนยงมากว่า 35 ปี และธุรกิจเครือข่ายแบบMLM คือ เอสเนเจอร์ ซึ่งกำลังเป็นที่ฮือฮาในหมู่สมาชิกMLMที่ยอมรับว่าเป็นMLMในอุดมคติ ด้วยแผนการตลาดที่ไม่ซับซ้อน มีความยุติธรรมและยั่งยืน สามารถสืบทอดเป็นมรดกได้ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพสูงตามนโยบายและหลักการที่บริษัทฯยึดถือตลอดมากว่า 45 ปี ทั้งนี้ บริษัท ศรีไทยฯ กำลังดำเนินการพัฒนาสาขาทั้งหมด 15 แห่ง ให้ทันสมัยเพื่อต้อนรับสมาชิกให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ และจะทำการเพิ่มสาขาอีกเท่าตัวภายใน 2 ปี เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจขายตรง ที่ในปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบัน เอสเนเจอร์มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมดประมาณ 100 รายการ ครอบคุลมผลิตภัณฑ์ทุกประเภทให้สมาชิกได้เลือกใช้และจำหน่าย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฯลฯ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้บริษัทฯยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องและส่งเสริมวิถีชีวิตสมัยใหม่ และช่วยเติมความต้องการของสมาชิกและผู้บริโภคทั่วไป โดยมีสินค้ารายการเด่น คือสินค้าบำรุงผิวพรรณในชุด Mangostana Collection อันมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือสารสกัดจากเปลือกในมังคุดที่ชื่อว่า “แซนโธน” ซึ่งเป็นผลงานคำขอสิทธิบัตรของการวิจัยการแปรรูปมังคุด แบบครบวงจรที่ บริษัทศรีไทยฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยเปลือกในของมังคุดจำนวน 1 ตัน จะสามารถสกัดได้แซนโธนไม่เกิน 20 ลิตรเท่านั้น แต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของมังคุดจากราคาตันละประมาณ 20000 บาท มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าถึง 30 ล้านบาท นอกจากนี้ เนื้อและเมล็ดของมังคุดยังถูกสกัดให้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในชื่อว่า “แซนโปร” โดยมีงานวิจัยมากมายพิสูจน์แล้วว่าเป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและรักษาโรคต่างๆจึงเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด ไม่เหลือขยะใดๆ จากวัตถุดิบ หรือที่เราเรียกว่า Zero-Waste จึงนอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมหาศาลแล้ว ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม นายสนั่นกล่าวว่า ขณะนี้เอสเนเจอร์ยังได้รับการทาบทามให้ไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ เช่น ประเทศในแถบตะวันออกกลาง อินเดีย ฮ่องกง ลาว เขมร พม่า เวียดนาม รวมทั้งประเทศในแถบยุโรปอีกด้วย โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการขยายธุรกิจเอสเนเจอร์สู่ประเทศ บ้านใกล้เรือนเคียงด้วยระบบ MLMในเร็วๆนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่ว่า “ธุรกิจเครือข่ายไทย สู่ธุรกิจเครือข่ายสากล” โดยให้สมาชิกคนไทยเป็นต้นสายอย่างเป็นรูปธรรมใน 3-5 ปีข้างหน้า

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Cody เด็กชายนักสู้ ผู้มีหลายขา‏


เด็กชายตัวน้อยชื่อ Cody Mccosland เด็กชาวอังกฤษ ผู้มีขาหลายคู่ เขาบ้าเล่นกีฬา แต่ก็เกิดมาโดยไม่มีกระดูกหัวเข่า ทำให้ต้องตัดขาท่อนล่างทิ้งตั้งแต่อายุ 15 เดือน วัยที่คนอื่นเดินเตาะแตะ แต่เขาเดินไม่ได้ แต่สองเดือนต่อมา เขาก็เริ่มหัดใช้ขาเทียมคู่แรก
ตอนนี้ Cody อายุ 7 ชวบแล้ว ในภาพล่างเขาเล่นสกีน้ำ แต่อันที่จริง เขาเล่นทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ตีกอล์ฟ เล่นคาราเต้ เบสบอลล์ และฮอคกี้น้ำแข็ง
เขาขี่จักรยานสามล้อ พร้อมรอยยิ้มมีความสุขที่มีให้เห็นเสมอ





ภาพเขาวิ่งด้วยขาคู่ที่ดูแปลก แต่น่าจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น สมกับสมญานาม The Boy With The Magic Legs จริงๆ






ขาเทียมของเขาได้รับบริจาคจากศูนย์ขาเทียม โรงพยาบาลเด็ก Texas Scottish Rite Hospital แต่เขาโตเร็วต้องเปลี่ยนขาอยู่เป็นประจำ

Cody กับครอบครัวและเพื่อนๆจึงเข้าร่วมงานการกุศลหาเงินช่วยโรงพยาบาล ได้เงินบริจาคมา มากกว่า 6 หมื่นปอนด์แล้ว
Cody ไม่ยอมให้มีอะไรเป็นอุปสรรคต่อชีวิตของเขา เราจึงได้เห็นภาพเขาเล่นฮอคกี้น้ำแข็งในภาพล่าง เท่ห์ชมั

กว่าจะมาเป็นเด็กชายสุขภาพดี หน้าเปื้อนยิ้มในวันนี้ Cody ผ่านอะไรๆมาเยอะ รวมทั้งช่วงหนึ่งของชีวิต ที่เขาต้องผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง จากปัญหาระบบภายในร่างกาย รวมทั้งต้องบำบัดอาการหายใจติดขัดและหอบหืด
"ใครที่กำลังท้อถอย ทั้งที่มีมือมีเท้าครบ อย่าทำตัวให้อาย Cody นะจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ความสำเร็จ คืออะไร?


ความสำเร็จ สามารถแยกออกมาได้ 3 คำคือ

ความ เป็นตัวนำเพื่อเปลี่ยนกริยาเป็นนาม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีกริยา ย่อมมี การกระทำ ลงไป

สำ เป็นตัวนำหน้าที่บ่งบอกถึง ความถี่ที่มากขึ้น เช่น สำรวม หมายถึงต้องมีการวบรวมการกระทำของตนให้มากๆ สำเริง สำราญ ก็จะหมายถึงทำให้มีความสุขมากๆ ทำนองนั้น

เร็จ เป็นคำที่ไม่มีความหมายในตัวมันเอง แต่ผมเดาว่ามันน่าจะมาจากคำว่า เร็ว + เสร็จ ซึ่งเป็นคำไทยๆ กลายเป็นเร็จ ซึ่งน่าจะมีความหมายว่า รวดเร็ว และ เสร็จสิ้น


เมือดูจากความหมายที่แยกแต่ละคำแล้ว ผมจึงมีความเห็นว่า ความสำเร็จ ของคนโบราณนั้น น่าจะมาจาก

"การลงมือกระทำการใดๆ ที่ทุ่มทั่งแรงกายแรงใจทำ ทำอย่างตั้งใจ และ ทำอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เสร็จสิ้นงานนั้นๆ" และผมคิดว่า ความหมายนี้ ก็ยังคงมีคุณค่าอยู่เหมือนเช่นอดีตครับ

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วิธีเอาชนะอุปสรรคในงานและชีวิต


ธุรกิจต่าง ๆ ที่ทำกันนั้นจะมีปีทองของธุรกิจ ในทำนองเดียวกันก็มีบางปีที่ธุรกิจการงานนั้นซบเซา หรือตกต่ำก็มีกลวิธีต่าง ๆ ที่ทั้งกิจการทั้งใหญ่และเล็กสามารถนำไปใช้เพื่อความอยู่รอดได้ ในบทนี้ จะให้แนวทางคือ

1. ควรที่จะทำอย่างไร เมื่อผลงานไม่เป็นตามเป้าหมาย

2. กระตุ้นเร้าให้ลงมือกระทำในแนวทางต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์

ที่สำคัญสิ่งที่เราควรมีมีคือ กำลังใจ ควรมีความทะเยอทะยานใฝ่ฝันและความเชื่อมั่นในตนเอง เดินไปสู่ถนนของความสำเร็จ โดยลงมือกระทำในวิถีทางที่ประหยัดและให้ได้ผลมากที่สุดในอันที่จะเพิ่มยอดขายด้วยการอุดรอยรั่ว และความเสียเปล่าต่าง ๆ และเพิ่มความกระตือรือร้นในการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ผู้เขียนขอฝากแนวทาง เพื่อเป็นทางสู้เมื่อธุรกิจซบเซา เอาชนะในงานและชีวิต ดังนี้

1. เรียนรู้

เมื่อใดก็ตามที่ธุรกิจติดขัด สิ่งที่เร่งด่วนสำหรับเราคือ เราเติมพลังความคิดสำหรับตัวเราเอง โดยการ

- หาหนังสือที่เกี่ยวข้องมาศึกษาหาความรู้

- หาเพื่อนฝูงที่ชาญฉลาดอาจช่วยเราได้

- เดินทางไปในที่ต่าง ๆ ปลุกสมองและรู้จักสังเกตพินิจพิจารณา

- ศึกษาคู่แข่งที่ประสบความสำเร็จที่สุด

- หน้าที่ ๆ สำคัญ คือ เรียนรู้ การคิดทบทวน การวางแผนและส่งเสริมการขายให้ธุรกิจหรืองานที่ทำ หมั่นศึกษาเลียนแบบบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในรูปแบบต่างๆ

2. ระวัง

คือต้องกำหนดนโยบายและรายจ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์การควบคุมตนเอง และบุคลากร จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งในวงการธุรกิจ โอกาสในช่วงที่ธุรกิจตกต่ำคือ เราจะต้องตื่นไวต่อข่าวสารต่าง ๆ เสมอ และเป็นนักสังเกตการณ์ที่ดี ฝึกเป็นผู้ที่ใช้เหตุผลและวิจารณญาณที่ดี โดยการยึดหลักที่ว่า

- ในช่วงปีที่ตกต่ำ ให้ใฝ่ใจปรับปรุงพัฒนา

- ในช่วงปีที่รุ่งเรืองให้ใฝ่ใจในการผลิตสินค้าและสรรหากำลังคน จงมองจุดดีหรือจุดเด่นของตัวเองให้พบและเลิกดูถูกตัวเองเสียทีหากคุณพยายามมองหาจุดเด่นหรือสิ่งดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในชีวิตแม้เป็นสิ่งเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้คุณเกิดกำลังใจได้
3. รอบคอบ

โดยจงคิดและวางแผนปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โดยพิจารณาว่ามีจุดอ่อนใด ๆ ในงานที่เราจะต้องเสริมให้แข็งแกร่งขึ้น เช่น ศูนย์จำหน่ายหรือร้านค้าปลีก เมื่อยอดขายตกต่ำก็ควรที่จะ ใส่ใจในการตกแต่งตู้แสดงสินค้าของกันให้มากขึ้น จัดใหม่เพื่อดึงดูด “ผู้ผ่านไปผ่านมา” ให้เข้ามาในร้าน สรุปง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเงื่อนไขทางธุรกิจไม่ปกติ เราก็ต้องทำสิ่งที่ไม่ปกติ ในการขาย ในการสปอนเซอร์ ในการจัดประชุม ในการจัดประชุม ในการการสร้างพลังจากมวลชน จงปลุกความกล้าให้เกิดขึ้นเสมอ จงลดความกลัวเหตุการณ์ หรือกลัวผู้คนต่าง ๆ เสีย จงบอกตัวเองซิครับว่าคุณเป็นคนกล้าหาญ เพราะถ้าคุณปฏิเสธความกลัวบ่อย ๆ และบอกกับตัวเอง คุณก็กล้ามากขึ้น ๆ ความกลัวต่าง ๆ จะจางไปจากตัวคุณเอง
4. ริเริ่ม

เราในฐานะผู้กระทำธุรกิจจะต้องมีสิ่งที่สำคัญ สองประการคือ การทำงานเป็นทีมและมีความคิดริเริ่ม โดยการปล่อยวางและการกระจายงานให้ผู้อื่นช่วยทำงานจึงจะประสบความสำเร็จ จงมีทัศนคติที่ดีต่อโลกและชีวิต จงมีความเชื่อที่ดี จงมีความหวังที่ดี จงมีความรักที่ดี ทั้ง 3 ตัวนี้จะทำให้คุณมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิตของตัวเองและคนอื่น จะทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
5. รักษา

จงถ่อมตน อย่าหยิ่ง หรือจองหอง ความถ่อมตนทำให้เกิดสติ เมื่อเกิดปัญหาจากคนหรือผลงานดีเด่นหรือตกต่ำ ความถ่อมตนจะทำให้เราไม่เหลิง ถ้าเราเป็นผู้ชนะ และความถ่อมตนจะทำให้เราไม่เจ็บปวดมาก ถ้าเราเป็นผู้แพ้

จงรักษาคน เพื่อรักษาผลงาน

จงรักษาผลงานโดยการสปอนเซอร์คน

จงสปอนเซอร์คน เพื่อรักษาคนและผลงาน
6. จงมีความรักในเพื่อนมนุษย์ให้มากขึ้น

ถ้าคุณจะเข้าใจและยอมรับในความบกพร่องของเพื่อนมนุษย์ ที่มีสาเหตุจากสันดานดิบของแต่ละคนที่ยังหลงเหลืออยู่ ร่วมกับความไม่รู้ ของแต่ละคนซึ่งมีกันอยู่ทุกคน คุณก็จะโกรธเขาน้อยลง และจะยอมรับเขาได้มากขึ้นว่าเขาจะมีความทุกข์จากสิ่งบกพร่องของเขานั่นเอง อย่าให้ความบกพร่องของเขามาทำลายความสุขของชีวิตคุณเลย เพียงแต่เข้าใจและยอมรับเขาในความปกติของเขาเสีย แทนที่คุณจะโกรธ คุณอาจเห็นอกเห็นใจเขามากขึ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นจงมีความรักในเพื่อนมนุษย์ให้มากขึ้น พอๆ กับรักตัวเอง
7. จงมีความฝันและจินตนาการให้ดีเข้าไว้

ชีวิตถ้าขาดความฝันก็แห้งแล้ง เราต้องฝันว่าเรามีหนทางชนะอุปสรรค เบื้องหลังอุปสรรคนี้คือทุ่งดอกไม้งามที่เราจะได้พบเห็น ความฝันที่ดีเหล่านี้จะทำให้เราเกิดกำลังใจ และอยากทำกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป ไม่ทอดทิ้งตัวเอง และไม่ทำร้ายหรือทำลายตัวเองให้หนักยิ่งขึ้น หลาย ๆ คนทุกข์ร้อนจากการคิดทำลายตัวเองมากกว่าพิษสงของอุปสรรคเสียอีก ถ้าจะให้ดีลองอ่านหนังสือที่ผู้เขียนๆ ขึ้นมาน่าสนใจเล่มหนึ่งชื่อว่า ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง
8. จงคิดว่าทุกอย่างมีความเป็นไปได้

แม้แต่การได้ชัยชนะที่คุณว่ายากแสนยาก อย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้อีกเลย พุทธศาสนาก็สอนว่าทุกอย่างในโลกนี้มันเป็นอนิจจัง คือไม่แน่นอน ฉะนั้นความเป็นไปได้ทั้งนั้น เช่น เป็นผู้ชนะ เป็นเศรษฐี เป็นบุคคลสำคัญ เป็นบุคลที่ใคร ๆ รักใคร่นับถือ ฯลฯ จงเลิกพูดและเลิกคิดถึงคำว่า “เป็นไปไม่ได้ ยาก คงลำบาก เหนื่อย ไม่ไหว” เสียที เพราะมันเป็นคำพูดของคนที่เกิดมาเพื่อจะแพ้ และแพ้ตั้งแต่ก่อนเริ่มลงมือทำอะไรเสียอีก ช่างน่าสงสารเสียจริง ๆ
9. อย่าคิดถึงปมด้อยของตัวเอง

เพราะการคิดถึงปมด้อยจะเป็นตัวฉุดให้คุณหยุดทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ คุณจะขาดความกล้าหาญ คุณจะขาดพลัง จงคิดว่าใคร ๆ ก็มีปมด้อยทั้งนั้น และมีกันคนละหลาย ๆ อย่างด้วย ปมด้อยก็คือความรู้สึกที่ตัวเองคิดว่าด้อย คนอื่นเขาอาจจะไม่ได้คิดหรือไม่ได้รู้เห็นด้วยเลย จงคิดว่าปมด้อยเป็นความปกติของชีวิต เหมือนทุก ๆ คนมีปาก ตา จมูก เราก็ไม่ได้แตกต่างจากใคร ๆ ไม่ได้ด้อยกว่าใครและใครก็ไม่ได้เหนือเรา เพราะเรามีอะไรคล้าย ๆ กัน ซึ่งเป็นความปกติของชีวิตมนุษย์ ไม่มีใครเป็นคนสมบูรณ์แบบหรอก และไม่มีใครที่ไม่มีความบกพร่องเลยเช่นกัน
10. ลงมือกระทำ

เมื่อเราได้เรียนรู้โดยเฉพาะเรียนรู้จากบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการ ฟัง การพูดคุย หรือการอ่านหนังสือดีๆ แล้ว ให้มองหาจุดดีของตัวเองให้พบ ปลูกความกล้าขึ้นมา มีทัศนคติที่ดีต่อโลกและชีวิต จงรักษาคนเพื่อรักษาผลงานด้วยการลงมือ ลงแรงสปอนเซอร์คน ไปพร้อมๆกับความรักในเพื่อนมนุษย์ให้มากขึ้น อย่าคิดถึงปมด้อยของตัวเอง จงคิดว่าทุกอย่างมีความเป็นไปได้ จงมีความฝันและจินตนาการให้ดีเอาไว้ ไปพร้อมๆกับการลงมือกระทำตามแผนการที่มีอยู่
เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “อุปสรรค” บางคนอาจจะอยากเดินหนี เพราะอุปสรรคไม่ใช่ขนมหวานที่ใคร ๆ อยากเดินเข้าหาหรอก ใครที่เคยพบอุปสรรคของชีวิตมาแล้ว ไม่ว่าคุณจะเอาชนะมันได้หรือไม่ก็ตาม คงไม่มีใครอยากพบกับมันอีก แต่เราก็หนีไม่พ้น อุปสรรคของชีวิตจะเข้ามาหาเราอู่ตลอดเวลา ทั้งทางด้านการงาน ความรัก การเงิน สังคม ครอบครัว การศึกษา หรือการดำเนินชีวิตทั่ว ๆ ไป ถ้าหากเราคิดยอมแพ้อุปสรรคเหล่านี้ เราก็จะแพ้ตลอดไปทั้งชาติ มันเป็นความเจ็บปวดที่เกิดมาแล้ว มีแต่ความพ่ายแพ้ตลอด เพียงคิดถึงแค่คำว่า “แพ้” มันก็เจ็บปวดแล้ว ถ้าอย่างนั้นลองหาทางเอาชนะอุปสรรคในงานและชีวิตตามคสำแนะนำดูบ้างจะเป็นไรไป









วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552


ความสำเร็จ คือ การก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง หากใครหยุดก้าวเดินชีวิตก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่หรืออาจจะถอยหลังลงเรื่อยๆ ฉะนั้นจึงหยุดก้าวเดินมิได้ ชีวิตต้องมีจุดหมายปลายทาง มีความหวัง และมีความทะเยอทะยานใฝ่รู้อยู่เสมอ ต่อไปนี้เป็นวิธีสู่ความสำเร็จ 7 วิธีที่ควรทราบ


* ให้คิดในแง่บวกคิดว่าต้องทำทุกอย่างได้ ลบความคิดว่า “เป็น ไปไม่ได้” ออกไปจากความคิด และจิตใจ
* ต้องตั้งเป้าหมายในการทำงานไว้อย่างแน่นอน และทำตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จ หากไม่ สามารถทำได้ก็อย่าหยุดความตั้งใจ ให้ปรับเปลี่ยนจุดหมายใหม่ที่ สามารถทำได้ทันที
* ต้องวางแผนปฏิบัติเป็นขั้นตอน เริ่มทำจากสิ่งง่ายๆหรือเล็กๆแล้วจึงขยับขยายไต่เต้าขึ้นไปทีละ ขั้นๆเพื่อให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มั่นคง
* ต้องพร้อมเสมอที่จะรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยไม่กลัวในสิ่งที่ยัง มาไม่ถึง
* ต้องกล้าคิด กล้าวางแผน และกล้าลงมือปฏิบัติก่อนที่คนอื่นๆจะลงมือทำเสียก่อน
* ต้องพร้อมเสมอที่จะเสียสละเพื่อแลกกับความสำเร็จในวันข้างหน้าJ อย่าหยุดแค่ความสำเร็จสูงสุดของวันนี้ ให้สร้างจุดมุ่งหมายที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และพยายามทำตามเป้าหมายนั้นต่อไปเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต


“ชีวิตเป็นของท่าน ท่านเป็นผู้กำหนดเอง”ขอขอบคุณ http:// studentaff.eau.ac.th

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

ทำไมต้องเลือกเอสเนเจอร์

ผมอยากจะเกริ่นนำเรื่องราวต่างๆ ของ เอสเนเจอร์ ให้สมาชิกทุกท่านได้รับทราบเป็นพื้นฐาน เพื่อเสริมความมั่นใจ และเพิ่มความภูมิใจ ในความเป็น เอสเนเจอร์ ให้มากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

การ จะทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือที่เราเรียกกันว่า MLM ให้ยุติธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 ฝ่าย คือ ต่อสมาชิกผู้บริโภค สมาชิกหุ้นส่วนธุรกิจที่เป็นลูกทีม สมาชิกหุ้นส่วนธุรกิจที่เป็นแม่ทีม และต่อบริษัทนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งในการเลือกแผนการตลาดที่เป็นธรรม การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง การสนับสนุนและการพัฒนาสมาชิก และมั่นคงในนโยบายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของสมาชิกและผู้บริโภคเป็นสำคัญ
บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าจดทะเบียนประมาณ 2,800 ล้านบาท ประสบความสำเร็จในธุรกิจหลักทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 ประเทศ มายาวนานถึง 45 ปี จึงเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวของประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย (MLM) ภายใต้องค์กรหลักนอก จากค่าแนะนำหรือที่เราเรียกว่า Fast Start Bonus ซึ่งให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากการซื้อสินค้าครั้งแรก เอสเนเจอร์ ยังเลือกใช้แผนการจ่ายผลประโยชน์ที่เกิดจากการซื้อซ้ำ คือ เบสิกโบนัส แบบยูนิเลเวล แล้วเพิ่มช่องทางรายได้อย่างมั่นคงด้วยการผสานประโยชน์แบบลีดเดอร์โบนัส 55% หรือที่เรารู้จักกันดีในคำว่า แม็ทชิ่ง นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีโบนัสแห่งความสำเร็จและกองทุนต่างๆ อันเป็นช่องทางรายได้ และผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับสมาชิกที่มีตำแหน่งสูงขึ้นด้วยครับ

คำ กล่าวที่ว่า รายได้อย่างมั่นคง นั้น เป็นเพราะบริษัทฯ ได้เลือกใช้วิธีการและกฎเกณฑ์ที่สนับสนุนการพัฒนาทีมงานของสมาชิกที่สำคัญ สรุปได้ 4 ประการ

1. ขึ้นตำแหน่งแล้วไม่มีวันตก
เนื่องจากแผนของ เอสเนเจอร์ ไม่ ต้องรักษายอดกลุ่ม การรักษายอดกลุ่มเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสมากสำหรับผู้บริหารทีมงานครับ ผู้บริหารทีมงานที่มีประสบการณ์จะทราบดี เพราะเป็นกฎเกณฑ์ที่ทำให้ต้องลงทุนสูงในการรักษาตำแหน่งเพื่อการรับผล ประโยชน์ และทำให้เกิดการขายสินค้าตัดราคากันเอง สำหรับสมาชิก เอสเนเจอร์ นั้นขึ้นตำแหน่งแล้วไม่มีการตก เพราะไม่ต้องรักษายอดกลุ่ม เพียงรักษาสิทธิ์ตามตำแหน่งของตนเองก็สามารถได้รับผลประโยชน์จากการซื้อสินค้าของสมาชิกภายใต้ององค์กรแล้ว ที่ต้องรักษาสิทธิ์นั้นก็เนื่องมาจากความตั้งใจที่ต้องการให้สมาชิกทุกท่านได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ เอสเนเจอร์ ด้วย ตัวเอง ถ้าใช้ดีจึงจะสามารถแนะนำให้ผู้อื่นใช้ตามเราได้อย่างเต็มปาก ดังนั้น เอสเนเจอร์จึงเป็นระบบธุรกิจเครือข่ายผู้บริโภคอย่างแท้จริง ที่จะต้องคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงมาสู่สมาชิกเท่านั้น
2. ไม่มีการตัดสายงาน และเป็นมรดกสืบทอดสู่ลูกหลานได้
เพื่อให้
เอสเนเจอร์ เป็นระบบเครือข่ายผู้บริโภคในอุดมคติ ที่ให้ความสนับสนุนการพัฒนาทีมงานของสมาชิกอย่างเป็นธรรม และสามารถเป็นสามารถเป็นมรดกสืบทอดได้ เอสเนเจอร์ จึง ไม่มีระบบการตัดสายงานใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าผู้ที่ท่านแนะนำจะมีตำแหน่งเทียบเท่าหรือสูงกว่าท่าน นั่นหมายถึงว่า สมาชิกทุกท่านจะได้รับผลประโยชน์จากผู้ที่แนะนำ และองค์กรเครือข่ายของท่านตลอดไปตราบเท่าที่ท่านเพียงรักษาสิทธิ์ส่วนตัวเพื่อซื้อสินค้าเอสเนเจอร์มาใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
3. ระบบพัฒนาและสนับสนุนสมาชิก
หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าระบบ DDSS ซึ่ง เป็นระบบที่ให้การอบรมสมาชิกตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาทีมงานเลยทีเดียว เป็นการช่วยผ่อนแรงให้กับผู้บริหารทีมงานอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยหลักสูตรของ Business Campus ที่บริหารจัดการโดยคณะกรรมการ Legend Club ที่ถูกคัดเลือกขึ้นมาโดยเหล่าสมาชิกของ
เอสเนเจอร์ นั่นเองใน ทางปฏิบัตินั้น การสร้างสายงานทำได้ไม่ยากครับ ท่านสมาชิกเพียงเข้ารับการอบรมที่บริษัท จากนั้นก็แนะนำให้ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจจะเป็นสมาชิกหุ้นส่วนธุรกิจให้มากที่ สุด แล้วส่งเข้ารับการอบรมจากบริษัท สมาชิกเหล่านั้นก็จะทำงานเหมือนๆ กัน เป็นชั้นๆ ไป ทำให้เกิดเครือข่ายแบบใยแมงมุมขึ้นมา อย่างที่เราเรียกว่า เน็ทเวอร์ค (Network) หรือ เครือข่าย การ ทำแบบนี้เหมาะสำหรับสมาชิกผู้ที่เพิ่งทำธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะได้ผลประโยชน์จากการสั่งซื้อครั้งแรกของผู้ที่ท่านแนะนำเป็นหลัก เมื่อทำงานไประยะหนึ่งก็จะได้รับค่าตอบแทนจากการที่สมาชิกภายใต้สายงานซื้อ สินค้าซ้ำ โดยในระยะนี้ท่านจะต้องทำงานด้านบริหาร นั่นก็คือ การบริหารองค์กรของท่านให้เกิดการทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยคัดเลือกสมาชิกที่ท่านแนะนำและสนใจการทำธุรกิจจริงจังมาประชุมหารือร่วม กันเพื่อวางแผนพัฒนาธุรกิจให้ตำแหน่งของท่านและสมาชิกสูงขึ้น เพื่อรับผลประโยชน์มากขึ้นอย่างมั่นคง
สำหรับ ผู้ที่มีเครือข่ายอยู่แล้วนั้น ท่านสามารถจัดสายงานของท่านได้ทันทีเพื่อสร้างองค์กร ถ้าเป็นไปได้ ท่านควรมีสายงานติดตัวอย่างน้อย 5 สายงาน หรือมากกว่านั้น เพื่อความไม่ประมาท แม้ว่าคุณสมบัติของการขึ้นตำแหน่งจะใช้เพียง 3 สายก็ตาม แต่ท่านก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงของสายงานจะขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกภายใต้องค์กรที่ซื้อผลิตภัณฑ์ ของเราไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่องทุกๆ เดือน ดังนั้นคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้ เอสเนเจอร์ เติบโตอย่างยั่งยืน
why_04
4. คุณภาพของผลิตภัณฑ์
ด้วย แผนแบบยูนิเลเวล ผลิตภัณฑ์ของบริษัท จึงเป็นทั้งผลิตภัณฑ์เพื่ออุปโภคและบริโภคทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตใด้ดีขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่เห็นผลจริง
ขอเรียนย้ำครับว่า บริษัทมีนโยบายที่ให้ความสำคัญที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างสูงสุด ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของ เอสเนเจอร์ จึง ได้รับการคัดสรรอย่างดี ทั้งวัตถุดิบ นวัตกรรม และผู้ผลิตเกรดเอ ที่ได้รับการยอมรับจากในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในด้านของเทคโนโลยีของการผลิต และความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ที่จะสามารถผลิตตามคุณลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ เอสเนเจอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้สรรพคุณตามที่ระบุไว้ในระยะเวลาอันเหมาะสมครับด้วย จรรยาบรรณของบริษัท เรายึดถือเงื่อนไขของคุณภาพเป็นสำคัญ และจะไม่ยอมประนีประนอมในเรื่องของคุณลักษณะเฉพาะที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น สมาชิกและผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพของ เอสเนเจอร์ ในราคาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน
สมาชิกทุกท่าน คงพอจะเข้าใจในภาพรวมของ เอสเนเจอร์ มากขึ้นนะครับ

ที่มา :วารสาร SNatur MAGAZINE ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม 2552

ผู้เขียน : ประเสริฐ ประสิทธิพยงค์
เทคนิคการแพทย์ เภสัชกรแผนไทย (พท.ภ), เวชกรรมแผนไทย (พท.ว),
ผู้ดำเนินการสปา (Spa Manager)

สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก และร่วมทำธุรกิจกับ
เอสเนเจอร์ ... คลิกที่นี่